“ทหารอากาศ” เถลิงแชมป์ตบถ้วย ก สมัย 4

 

เรียกว่าเล่นกันอย่างสมศักดิ์

สำหรับนักตบลูกยางหนุ่มสายเลือดทหาร  “ทัพฟ้า” ทหารอากาศ แชมป์เก่า 3 สมัยติดต่อกัน กับ “ทัพบก” กองทัพบก ในฐานะรองแชมป์เก่า คู่ชิงชนะเลิศ การแข่งขันวอลเลย์บอลประชาชนชาย ก ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2555 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

หากเทียบดีกรีและฝีมือแล้วถือว่าไม่หนีกัน เนื่องจากทั้งสองทีมล้วนมีผู้เล่นดีกรีทีมชาติไทยลงคุมหัวเสาตำแหน่งสำคัญที่คอยทำแต้ม

ในขณะที่ “กองทัพบก” นอกจากจะได้สดจากทีมชาติชุดปัจุบัน นำโดย ส.อ.วันชัย ทัพวิเศษ, ส.ต.กฤษฎา สมคะเน, ส.ต.โชติวัฒน์ ติ้วสุวรรณ ยังได้จอมเก๋าจากชุดทีมชาติในอดีตร่วมด้วย ทั้ง ส.อ.ศุภชัย ศรีภูมิ, ส.อ.รัชภูมิสามทอง, ส.ท.สมพร วรรณประภา, ส.อ.สุรชัย ชูรัตน์ และ ส.อ.ศรายุทธ ยุทธยงค์ เป็นกำลังเสริม พร้อมด้วยดาวรุ่งมือดี ส.ท.สุรเชษฐ์ สระทองหวัง, ส.ท.สมเกียรติ สมบัติ, ส.ท.ปิยะราช สุขปื้อ และ ส.ท.ธนพัฒน์ อยู่เย็น

ฝาก  “หนุ่มทัพฟ้า” อาศัยความสดเข้าแลก โดยมีมือสังหารโหดอย่าง “เจมส์” จ.อ.จิรายุ รักษาแก้ว กับ “แขก” จ.อ.กิตติคุณ ศรีอุทธวงศ์ กัปตันทีม คุมทัพลงสนามแบบเต็มอัตราศึกทีมชาติไทย ทั้ง จ.อ.มนตรี แหวนประดับ, จ.อ.ยุรนันท์ บัวแดง, จ.อ.สราญจิต เจริญสุข, จ.อ.ธีรศักดิ์ นาคประสงค์, จ.อ.นัฐพงศ์ เกษาพันธ์ และ ยามีน ทราวาเร่ ลูกครึ่งไทย-มาลี เสิรมแกร่งด้วย 2 นักตบจากต้นสังกัดกองทัพอากาศอย่าง จ.ต.อนันต์ อนุรักษ์ และ จ.อ.ภูวพล โสภาพล โดยมียอดกุนซือทีมชาติ “โค้ชยุ่น” มนต์ชัย สุภจิระกุล คอยบัญชาการข้างสนาม

จากผลการแข่งขัน 3 ครั้งที่ผ่านมา ประกอบกับรายชื่อนักกีฬาและโค้ช ทำให้ “กองทัพอากาศ” ถูกยกเป็นทีมเต็งแชมป์ของทัวร์นาเมนต์นี้

อย่างไรก็ตามแม้จะเก็บชัยชนะมาได้ตลอดการแข่งขัน 4 นัดก่อนหน้าที่จะฝ่าด่านเข้าสู้รอบชิงชนะเลิศ “หนุ่มทอ.” จะเป็นฝ่ายพิชิตชัย แต่ในนัดชิงดำชักจะไม่ง่ายเมื่อต้องโคจรมาเจอคู่รักคู่แค้นตลอดกาล “กองทัพบก” เนื่องจากสองสัปดาห์ก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันถ้วย ก “หนุ่มทอ.” พลาดท่าแพ้ให้กับ “กองทัพอากาศ” มาสดๆ ร้อนๆ ในศึกกีฬากองทัพไทย

ด้วยเหตุนี้ทำให้ “โค้ชยุ่น” เกรงจะโดนย้ำแค้นอยู่ไม่น้อย เพราะตบ “หนุ่มทัพบก” เองก็คงคาดหวังอยากจะตอกย้ำชัยชนะเหนือ “ทหารอากาศ” เช่นกัน

สองทีมต่างทุ่มเททำงานหนักเพื่อที่จะประสบชัยชนะและได้ก้าวขึ้นสู่ทำเนียบแชมป์ ฉะนั้นเกมนัดชิงดำนี้จึงไม่ต่างอะไรจากศึกแห่งศักดิ์ศรีและเกียรติยศ

ครั้งนี้ทั้งคู่สู้กันอย่างดุเดือด โดยใช้เกมรุกหัวเสาเป็นการโจมตีหลักทำเอากองเชียร์ลุ้นหืดไม่ต่างจากผู้เล่นและสตาาฟฟ์โค้ช โดยเฉพาะเซตที่สามหลังจาก “ทหารอากาศ” เป็นฝ่ายขึ้นนำก่อน 2-0 “หนุ่มทัพบก” อาศัย “ชั่วโมงบิน” และการเล่นที่หลากหลายไล่ทำแต้มสร้างความกดดันให้โค้ชทหารอากาศต้องเบรกเวลาหลายครั้ง เมื่อตกอยู่ในสภาะคับขัน

แต่ด้วยการแก้เกมจากโค้ชระดับมืออาชีพ อีกทั้งการเค้นฟอร์มเด่นกลับคืนมาได้ทันท่วงที ส่งผลให้สุดท้ายแล้ว “หนุ่มทัพฟ้า” ทหารอากาศ สามารถกอบกู้ชัยชนะและศักดิ์ศรีกลับคืนได้สำเร็จ หลังปล่ยให้ “ทัพบก” ไล่กวดจนจี้ติดที่ 23-24

เรียกว่าเป็นวินาทีแห่งการชี้เป็นชี้ตายสำหรับ “ทัพฟ้า” เลยก็ว่าได้ หากจังหวะนั้น “หนุ่มทัพฟ้า” จิตใจกระเจิดกระเจิงคงโดน “ทัพบก” ตามขยี้แบบไม่เหลือซาก

ทว่าโชคดีที่พวกเขาคืนฟอร์มได้ทันเวลา ทำให้ผงาดกลับมาเอาชนะได้อย่างราบคาบ

สิ่งที่ทำให้ “หนุ่มทัพฟ้า” ประสบความสำเร็จเฉกเช่น 3 ปีก่อนหน้า นอกจากฝีมือส่วนบุคคล หัวใจสำคัญนั่นคือ “ทีมเวิร์ก” และ “สปิริต” กุญแจที่ไขให้พวกเขาก้าวสู่การเป็นแชมป์สมัยที่ 4 ติดต่อกัน

อย่างไรก็ตาม “แพ้” หรือ “ชนะ” ไม่สำคัญ หากแต่สิ่งสำคัญ คือ ทั้งคู่สู้กันได้สมศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

Free Web Hosting