เอเชียนเกมส์

เอเชียนเกมส์

เอเชียนเกมส์
Asian Games
Asian Games logo.svg

ตราสัญลักษณ์ของกีฬาเอเชียนเกมส์
ชื่อย่อ Asiad
คำขวัญ Ever Onward
(ก้าวหน้าตลอดไป)
ก่อตั้ง ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2494
อินเดีย กรุงนิวเดลี, อินเดีย
จัดขึ้นทุก 4 ปี
ครั้งล่าสุด ครั้งที่ 17 ที่อินชอน
เกาหลีใต้ ประเทศเกาหลีใต้
วัตถุประสงค์ กีฬาสำหรับภูมิภาคเอเชีย
สำนักงานใหญ่ สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย
กรุงคูเวตซิตี, รัฐคูเวต
ประธาน คูเวต เชค ฟาฮัด อัล-ซาบะห์
เว็บไซต์ กีฬาเอเชียนเกมส์

กีฬาเอเชียนเกมส์ (อังกฤษ: Asian Games; ชื่อย่อ: Asiad) เป็นการแข่งขันกีฬาหลากชนิด ระหว่างประเทศในทวีปเอเชีย ซึ่งมีการจัดขึ้นในทุกสี่ปี เริ่มกำหนดการแข่งขันโดย สหพันธ์เอเชียนเกมส์ (The Asian Games Federation; AGF) ตั้งแต่การแข่งขันครั้งแรกถึงครั้งที่ 8 และตั้งแต่เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 9 เป็นต้นมา บริหารจัดการแข่งขันโดย สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (Olympic Council of Asia; OCA) ภายใต้การรับรองโดย คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee; IOC) และยังถือได้ว่าเป็นการแข่งขันกีฬาหลากชนิด ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากกีฬาโอลิมปิกด้วย

ในประวัติศาสตร์ของเอเชียนเกมส์ มีชาติเจ้าภาพจัดการแข่งขันแล้ว 9 ประเทศ โดยมี 46 ประเทศเข้าร่วม ยกเว้นอิสราเอลซึ่งถูกกีดกันออกจากเอเชียนเกมส์ หลังจากที่เข้าร่วมเป็นคราวสุดท้ายในครั้งที่ 7 โดยเอเชียนเกมส์ครั้งหลังสุด จัดขึ้นที่นครอินช็อนของเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 19 กันยายน-4 ตุลาคม พ.ศ. 2557 (ค.ศ. 2014) และการแข่งขันครั้งต่อไป จะจัดขึ้นที่กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย ในปี พ.ศ. 2561 (ค.ศ. 2018)

ประวัติ

ตรากีฬาตะวันออกไกล

ยุคกีฬาตะวันออกไกล

ดูบทความหลักที่: กีฬาตะวันออกไกล

เมื่อปี พ.ศ. 2456 (ค.ศ. 1913) อี.เอส.บราวน์ ประธานสมาคมกีฬาแห่งหมู่เกาะฟิลิปปินส์ของสหรัฐอเมริกา (The Philippines Athletic Association) ผู้จัดการแข่งขันกีฬาคาร์นิวัลแห่งกรุงมะนิลา (Manila Carnival Games) เชิญชวนให้สาธารณรัฐจีน และ จักรวรรดิญี่ปุ่น (ชื่อในขณะนั้น) เข้าร่วมการแข่งขัน กีฬาชิงชนะเลิศแห่งตะวันออกไกล (Far East Games) ทว่าในเวลาต่อมา เกิดปัญหาทางการเมืองระหว่างจีนกับญี่ปุ่น การแข่งขันจึงต้องสิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2480 (ค.ศ. 1937) หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง มีการประกาศเอกราชเกิดขึ้นเป็นหลายประเทศใหม่ ซึ่งประเทศในเอเชียทั้งหมดต่างก็คาดหวังจะเห็น การแข่งขันกีฬาภายในทวีปรูปแบบใหม่ ที่ไม่มีการใช้อิทธิพลเข้าครอบงำ หากแต่ร่วมกันเสริมสร้างความเข้มแข็ง ภายใต้ความเข้าใจซึ่งกันและกัน

ยุคสหพันธ์เอเชียนเกมส์

ดูบทความหลักที่: สหพันธ์เอเชียนเกมส์

จากนั้นในปี พ.ศ. 2491 (ค.ศ. 1948) กลุ่มนักกีฬาของสาธารณรัฐประชาชนจีน และฟิลิปปินส์ ซึ่งเข้าร่วมแข่งขันในโอลิมปิกฤดูร้อน ครั้งที่ 14 ที่กรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักร มีดำริที่จะฟื้นการแข่งขันกีฬาตะวันออกไกลขึ้นใหม่ อย่างไรก็ตาม กูรู ดัตท์ สนธิ (Guru Dutt Sondhi) ผู้แทนคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งอินเดีย ให้ความเห็นว่า ควรเปิดกว้างให้แก่ทุกประเทศในทวีปเอเชีย สามารถเข้าร่วมการแข่งขันอย่างเท่าเทียมกัน จึงเสนอให้ร่างระเบียบขึ้น เพื่อจัดตั้งขึ้นในรูปสหพันธ์กีฬาแห่งเอเชีย (The Asian Athletic Federation) ต่อมาเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2492 (ค.ศ. 1949) ธรรมนูญองค์กรก็เสร็จสมบูรณ์ พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็น สหพันธ์กีฬาเอเชียนเกมส์ (The Asian Games Federation) ถือกำเนิดขึ้นที่กรุงนิวเดลีของอินเดีย ซึ่งเมืองหลวงแห่งนี้เอง ที่เป็นเจ้าภาพการแข่งขันครั้งที่ 1 ของเอเชียนเกมส์ ในอีกสองปีถัดมา (พ.ศ. 2494; ค.ศ. 1951)

ระยะต่อมาเกิดปัญหาขึ้น ตั้งแต่ก่อนการแข่งขันครั้งที่ 8 ซึ่งมีกรุงเทพมหานครของไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อปี พ.ศ. 2521 (ค.ศ. 1978) เนื่องจากสหพันธ์เอเชียนเกมส์ ออกมติไม่ยินยอมให้ จีนไทเปและอิสราเอล เข้าร่วมแข่งขัน อันมีสาเหตุมาจากปัญหาการเมืองภายในของทั้งสองชาติ ทำให้เกิดความกังวลต่อการรักษาความปลอดภัย เป็นเหตุให้องค์กรกีฬาระดับนานาชาติหลายแห่ง ออกมาทักท้วงต่อต้าน โดยเฉพาะสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ (International Association of Athletics Federations; IAAF) ถึงกับประกาศขู่ว่า หากนักกรีฑาของชาติใด เข้าร่วมแข่งขันเอเชียนเกมส์คราวนี้ สหพันธ์ฯจะกีดกันไม่ให้เข้าแข่งขัน ในกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 22 ประจำปี พ.ศ. 2523 (ค.ศ. 1980) ซึ่งส่งผลกระทบให้นักกีฬาหลายชาติ ขอถอนตัวจากการแข่งขันครั้งนี้

ตราสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย

ยุคสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย

ดูบทความหลักที่: สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย

จากวิกฤตการณ์ดังกล่าว คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติในทวีปเอเชีย ตัดสินใจเปิดการประชุมร่วมกันในวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2524 (ค.ศ. 1981) โดยไม่มีการแจ้งให้ทางอิสราเอลเข้าร่วมด้วย เพื่อยกร่างแก้ไขธรรมนูญสหพันธ์เอเชียนเกมส์ มีสาระสำคัญคือ การจัดตั้งสมาคมบริหารจัดการกีฬาเอเชียนเกมส์ขึ้นใหม่ เรียกว่า สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย และก่อตั้งอย่างเป็นทางการ ระหว่างการประชุมครั้งแรกของสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2525 (ค.ศ. 1982) ที่กรุงนิวเดลี ก่อนการแข่งขันครั้งที่ 9 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองหลวงของอินเดียตามกำหนดเดิม โดยไม่มีการยกเลิกกำหนดการต่างๆ ซึ่งสหพันธ์เอเชียนเกมส์จัดทำไว้แล้ว และมีสมาชิกชุดก่อตั้ง เป็นคณะกรรมการโอลิมปิกของ 34 ชาติ[1] จากนั้นสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย จึงเริ่มรับหน้าที่กำกับดูแลเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 10 ซึ่งกรุงโซลของเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ เมื่อปี พ.ศ. 2529 (ค.ศ. 1986) เป็นครั้งแรก มาจนถึงปัจจุบัน ส่วนจีนไทเปกลับเข้าร่วมในครั้งที่ 11 ที่กรุงปักกิ่งของจีน เมื่อปี พ.ศ. 2533 (ค.ศ. 1990)

ในการแข่งขันครั้งที่ 12 ซึ่งจัดขึ้นที่นครฮิโรชิมาของญี่ปุ่น เมื่อปี พ.ศ. 2537 (ค.ศ. 1994) เป็นครั้งแรกที่มิได้จัดแข่งขันในเมืองหลวงของประเทศ โดยกลุ่มประเทศที่แยกตัวเป็นเอกราชจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ซึ่งประกอบด้วยคาซักสถาน, คีร์กีซสถาน, อุซเบกิสถาน, เติร์กเมนิสถาน และทาจิกิสถาน เข้าร่วมเป็นครั้งแรกส่วนอิรักมิได้รับการยินยอมให้เข้าร่วม เนื่องจากเป็นชาติที่ก่อสงครามอ่าวเปอร์เซีย เมื่อปี พ.ศ. 2533 และเกาหลีเหนือคว่ำบาตรการแข่งขัน เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เป็นปัญหา นอกจากนี้ยังเกิดการสูญเสียผู้แทนจากประเทศเนปาล ณเรศกุมาร์ อธิการี (Nareshkumar Adhikari) ซึ่งเสียชีวิตระหว่างพิธีเปิดการแข่งขันจากนั้นในปี พ.ศ. 2541 (ค.ศ. 1998) เป็นประวัติศาสตร์ของเอเชียนเกมส์ เมื่อกรุงเทพฯของไทย เป็นเจ้าภาพครั้งที่ 4 โดยพิธีเปิดในสามครั้งแรก มีขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคม ส่วนครั้งนี้เปิดในวันที่ 6 แต่ทั้งหมดสิ้นสุดในวันเดียวกันคือ 20 ธันวาคม และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานในพิธีเปิดทั้งสี่ครั้ง

การเปลี่ยนแปลงในอนาคต

จำนวนกีฬาที่แข่งขันจะกำหนดให้ลดน้อยลง เหลือเพียง 35 ชนิดในการแข่งขันครั้งที่ 17 ซึ่งจะจัดขึ้นที่นครอินช็อนของเกาหลีใต้ และคราวนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่การแข่งขันจะจัดขึ้นตามระยะเวลาเดิม เมื่อโอซีเอผลักดันให้การแข่งขันครั้งถัดไป เกิดขึ้นก่อนกีฬาโอลิมปิกเพียงหนึ่งปี จึงหมายความว่าเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 18 ซึ่งตามปกติจะมีกำหนดจัดในปี พ.ศ. 2561 (ค.ศ. 2018) จะผลักดันไปเป็น พ.ศ. 2562 (ค.ศ. 2019)

รายชื่อการแข่งขัน

กรุงเทพมหานครของประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมากที่สุดถึง 4 ครั้ง (2509, 2513, 2521, 2541) ตามด้วยสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) 3 ครั้ง ในกรุงโซล (2529) นครปูซาน (2544) และนครอินช็อน (2557) ส่วนประเทศที่เป็นเจ้าภาพมาแล้วชาติละสองครั้ง ประกอบด้วยสาธารณรัฐประชาชนจีน (กรุงปักกิ่ง 2533, นครกว่างโจว 2553) กรุงนิวเดลีของสาธารณรัฐอินเดีย (2494, 2525) และประเทศญี่ปุ่น (กรุงโตเกียว 2501, นครฮิโรชิมา 2537) โดยกรุงมะนิลาของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (2497) กรุงจาการ์ตาของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย (2505) กรุงเตหะรานของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน (2517) และกรุงโดฮาของรัฐกาตาร์ (2549) ต่างเป็นเจ้าภาพมาแล้วเมืองละหนึ่งครั้ง

ภาพแสดงจำนวนครั้งที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเอเชียนเกมส์ของแต่ละประเทศ (2494-2562)

ครั้งที่ วัน/เดือน/พ.ศ.(ค.ศ.) เจ้าภาพ จำนวนเหรียญทอง ชาติเข้าร่วม นักกีฬา (คน) ชนิดกีฬา รอบแข่งขัน อ้างอิง
เมือง ประเทศ อันดับ 1 อันดับ 2 อันดับ 3
1 4-11 มีนาคม
พ.ศ. 2494 (ค.ศ. 1951)
นิวเดลี ธงของประเทศอินเดีย อินเดีย ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น (24) ธงของประเทศอินเดีย อินเดีย (15) ธงของประเทศอิหร่าน อิหร่าน (8) 11 489 6 57 [10]
2 1-9 พฤษภาคม
พ.ศ. 2497 (ค.ศ. 1954)
มะนิลา ธงของประเทศฟิลิปปินส์ ฟิลิปปินส์ ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น (38) ธงของประเทศฟิลิปปินส์ ฟิลิปปินส์ (14) ธงของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ (8) 19 970 8 76 [11]
3 24 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน
พ.ศ. 2501 (ค.ศ. 1958)
โตเกียว ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น (67) ธงของประเทศฟิลิปปินส์ ฟิลิปปินส์ (9) ธงของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ (8) 16 1,820 13 97 [12]
4 24 สิงหาคม – 4 กันยายน
พ.ศ. 2505 (ค.ศ. 1962)
จาการ์ตา ธงของประเทศอินโดนีเซีย อินโดนีเซีย ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น (73) ธงของประเทศอินโดนีเซีย อินโดนีเซีย (21) ธงของประเทศอินเดีย อินเดีย (10) 12 1,460 13 88 [13]
5 9 – 20 ธันวาคม
พ.ศ. 2509 (ค.ศ. 1966)
กรุงเทพมหานคร  ไทย ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น (78) ธงของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ (12)  ไทย (11) 16 1,945 14 143 [14]
61 24 สิงหาคม-4 กันยายน
พ.ศ. 2513 (ค.ศ. 1970)
กรุงเทพมหานคร  ไทย ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น (74) ธงของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ (18)  ไทย (9) 16 2,400 13 135 [15]
7 1-16 กันยายน
พ.ศ. 2517 (ค.ศ. 1974)
เตหะราน ธงของประเทศอิหร่าน อิหร่าน ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น (75) ธงของประเทศอิหร่าน อิหร่าน (36) ธงของประเทศจีน จีน (32) 19 3,010 16 202 [16]
82 9-20 ธันวาคม
พ.ศ. 2521 (ค.ศ. 1978)
กรุงเทพมหานคร  ไทย ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น (70) ธงของประเทศจีน จีน (51) ธงของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ (18) 19 3,842 19 201 [17]
9 19 พฤศจิกายน ถึง 4 ธันวาคม
พ.ศ. 2525 (ค.ศ. 1982)
นิวเดลี ธงของประเทศอินเดีย อินเดีย ธงของประเทศจีน จีน (61) ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น (57) ธงของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ (28) 33 3,411 21 147 [18]
10 20 กันยายน ถึง 5 ตุลาคม
พ.ศ. 2529 (ค.ศ. 1986)
โซล ธงของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ ธงของประเทศจีน จีน (94) ธงของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ (93) ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น (58) 27 4,839 25 270 [19]
11 22 กันยายน ถึง 7 ตุลาคม
พ.ศ. 2533 (ค.ศ. 1990)
ปักกิ่ง ธงของประเทศจีน จีน ธงของประเทศจีน จีน (183) ธงของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ (54) ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น (38) 36 6,122 29 310 [20]
12 2-16 ตุลาคม
พ.ศ. 2537 (ค.ศ. 1994)
ฮิโรชิมา ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น ธงของประเทศจีน จีน (125) ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น (64) ธงของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ (63) 42 6,828 34 337 [21]
13 6-20 ธันวาคม
พ.ศ. 2541 (ค.ศ. 1998)
กรุงเทพมหานคร  ไทย ธงของประเทศจีน จีน (129) ธงของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ (65) ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น (52) 41 6,554 36 376 [22]
14 29 กันยายน ถึง 14 ตุลาคม
พ.ศ. 2545 (ค.ศ. 2002)
ปูซาน ธงของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ ธงของประเทศจีน จีน (150) ธงของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ (96) ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น (44) 44 7,711 38 419 [23]
15 1-15 ธันวาคม
พ.ศ. 2549 (ค.ศ. 2006)
โดฮา ธงของประเทศกาตาร์ กาตาร์ ธงของประเทศจีน จีน (165) ธงของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ (58) ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น (50) 45 9,520 39 424 [24]
16 12 ถึง 27 พฤศจิกายน
พ.ศ. 2553 (ค.ศ. 2010)
กว่างโจว ธงของประเทศจีน จีน ธงของประเทศจีน จีน (199) ธงของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ (76) ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น (48) 45 9,704 42 476 [25]
17 19 กันยายน ถึง 4 ตุลาคม
พ.ศ. 2557 (ค.ศ. 2014)
อินช็อน ธงของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ ธงของประเทศจีน จีน (151) ธงของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ (79) ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น (47) 45 9,501 36 436 [26]
183 พ.ศ. 2561 (ค.ศ. 2018) จาการ์ตา ธงของประเทศอินโดนีเซีย อินโดนีเซีย ยังไม่แข่งขัน
19 พ.ศ. 2566 (ค.ศ. 2023) อยู่ระหว่างการเสนอชื่อเมือง

หมายเหตุ

ประเทศที่เข้าร่วม

ดูบทความหลักที่ ชาติสมาชิกของสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย

สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย มอบสิทธิเข้าร่วมการแข่งขันแก่คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติของ 45 ประเทศในเอเชีย ก่อนหน้านี้ในยุคสหพันธ์เอเชียนเกมส์ ยังมีอิสราเอลเข้าร่วมด้วย แต่ถูกระงับไปตั้งแต่ พ.ศ. 2519 (ค.ศ. 1976) ด้วยเหตุผลเรื่องความมั่นคง ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2525 อิสราเอลร้องขอเข้าร่วมเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 9 แต่สภาโอลิมปิกแห่งเอเชียปฏิเสธคำขอ เนื่องจากเหตุการณ์สังหารหมู่ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 20 ที่นครมิวนิกของเยอรมนีตะวันตก ปัจจุบันอิสราเอลเป็นสมาชิกของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งยุโรป ตั้งแต่ พ.ศ. 2537; ค.ศ. 1994

สำหรับไต้หวันมีโอกาสร่วมการแข่งขันในครั้งที่ 11 ภายใต้ชื่อและธงโอลิมปิกของจีนไทเป หลังจากเปลี่ยนชื่อเป็นคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งจีนไทเปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 (ค.ศ. 1979) ส่วนมาเก๊าได้รับอนุญาตจากสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย ให้เข้าเป็นสมาชิกและร่วมแข่งขันตั้งแต่ พ.ศ. 2532 (ค.ศ. 1989) แม้ว่าคณะกรรมการโอลิมปิกสากล จะไม่ยอมรับให้เข้าแข่งขันในโอลิมปิกก็ตาม

เชค อะห์หมัด อัล-ฟาฮัด อัล-อะห์เหม็ด อัล-ซาบะห์ (Sheikh Ahmad Al-Fahad Al-Ahmed Al-Sabah) ประธานสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย ปฏิเสธข้อเสนอเมื่อปี พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) ที่จะให้ออสเตรเลียเข้าร่วมแข่งขันด้วย โดยเขามีความเห็นว่า แม้ออสเตรเลียจะมีส่วนช่วยผลักดัน ให้มาตรฐานการกีฬาของเอเชียนเกมส์ดีขึ้น แต่ก็จะไม่เป็นธรรมต่อประเทศอื่นๆ ในกลุ่มโอเชียเนียเช่นกัน

ประเทศที่เข้าร่วมแข่งขันกีฬาในเอเชียนเกมส์ครบทุกประเภท มีทั้งหมด 7 ชาติได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา สิงคโปร์ และไทย

กีฬาที่จัดแข่งขัน

ตลอดระยะเวลาที่มีการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ปรากฏว่ามีการแข่งขันกีฬาทั้งหมด 44 ชนิด ดังตารางต่อไปนี้

กีฬา พ.ศ.ที่แข่งขัน (ค.ศ.)
Swimming pictogram.svg กีฬาทางน้ำ ตั้งแต่ 2494 (1951)
Archery pictogram.svg ยิงธนู ตั้งแต่ 2521 (1978)
Athletics pictogram.svg กรีฑา ตั้งแต่ 2494 (1951)
Badminton pictogram.svg แบดมินตัน ตั้งแต่ 2505 (1962)
Baseball pictogram.svg เบสบอล ตั้งแต่ 2537 (1994)
Basketball pictogram.svg บาสเกตบอล ตั้งแต่ 2494 (1951)
Chess pictogram.png เกมกระดาน ตั้งแต่ 2549 (2006)
Bodybuilding pictogram.svg เพาะกาย 2545-2549 (2002–2006)
Bowling pictogram.svg โบว์ลิง 2521 (1978),
2529 (1986),
ตั้งแต่ 2537 (1994)
Boxing pictogram.svg มวยสากล ตั้งแต่ 2497 (1954)
Canoeing (slalom) pictogram.svg เรือแคนู ตั้งแต่ 2529 (1986)
Cricket pictogram.svg คริกเก็ต 2553 (2010)
Cue sports pictogram.svg บิลเลียด ตั้งแต่ 2541 (1998)
Cycling (road) pictogram.svg จักรยาน 2494 (1951),
ตั้งแต่ 2501 (1958)
Dancesport pictogram.svg ลีลาศ 2553 (2010)
Dragon boat pictogram.svg เรือมังกร 2553 (2010)
Equestrian pictogram.svg ขี่ม้า 2525-2529 (1982-1986),
ตั้งแต่ 2537 (1994)
Fencing pictogram.svg ฟันดาบ 2517-2521 (1974–1978),
ตั้งแต่ 2529 (1986)
Football pictogram.svg ฟุตบอล ตั้งแต่ 2494 (1951)
Golf pictogram.svg กอล์ฟ ตั้งแต่ 2525 (1982)
Gymnastics (rhythmic) pictogram.svg ยิมนาสติก ตั้งแต่ 2517 (1974)
Handball pictogram.svg แฮนด์บอล ตั้งแต่ 2525 (1982)
Field hockey pictogram.svg ฮอกกี ตั้งแต่ 2501 (1958)
กีฬา พ.ศ.ที่แข่งขัน (ค.ศ.)
Judo pictogram.svg ยูโด ตั้งแต่ 2529 (1986)
Olympic Rings Icon.svg กาบัดดี ตั้งแต่ 2533 (1990)
Karate pictogram.svg คาราเต้ ตั้งแต่ 2537 (1994)
Modern pentathlon pictogram.svg ปัญจกรีฑาสมัยใหม่ 2537 (1994),
2544 (2002),
2553 (2010)
Inline speed skating pictogram.svg กีฬาล้อเลื่อน 2553 (2010)
Rowing pictogram.svg เรือพาย ตั้งแต่ 2525 (1982)
Rugby union pictogram.svg รักบีฟุตบอล ตั้งแต่ 2541 (1998)
Sailing pictogram.svg เรือใบ 2513 (1970),
ตั้งแต่ 2521 (1978)
Sepaktakraw pictogram.svg เซปักตะกร้อ ตั้งแต่ 2533 (1990)
Shooting pictogram.svg ยิงปืน ตั้งแต่ 2497 (1954)
Softball pictogram.svg ซอฟต์บอล ตั้งแต่ 2533 (1990)
Tennis pictogram.svg ซอฟต์เทนนิส ตั้งแต่ 2533 (1990)
Squash pictogram.svg สควอช ตั้งแต่ 2541 (1998)
Table tennis pictogram.svg เทเบิลเทนนิส 2501-2509 (1958–1966),
ตั้งแต่ 2517 (1974)
Taekwondo pictogram.svg เทควันโด 2529 (1986),
ตั้งแต่ 2537 (1994)
Tennis pictogram.svg เทนนิส 2501-2509 (1958–1966),
ตั้งแต่ 2517 (1974)
Triathlon pictogram.svg ไตรกีฬา ตั้งแต่ 2549 (2006)
Volleyball (indoor) pictogram.svg วอลเลย์บอล ตั้งแต่ 2501 (1958)
Weightlifting pictogram.svg ยกน้ำหนัก 2494-2501 (1951–1958),
ตั้งแต่ 2509 (1966)
Wrestling pictogram.svg มวยปล้ำ ตั้งแต่ 2497 (1954)
Wushu pictogram.svg วูซู ตั้งแต่ 2533 (1990)

เหรียญรางวัลรวม

ดูบทความหลักที่: สรุปเหรียญเอเชียนเกมส์

ตลอดระยะเวลาของการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ปรากฏว่าญี่ปุ่นและจีน เป็นเพียงสองชาติในประวัติศาสตร์ ที่ได้รับเหรียญรางวัลมากที่สุด ส่วนชาติที่มี 1 เหรียญทองเป็นอย่างน้อย มีจำนวน 34 ประเทศ ขณะที่มี 43 ประเทศ ได้รับ 1 เหรียญรางวัลเป็นอย่างน้อย ต่อการแข่งขันหนึ่งครั้ง โดยภูฏาน มัลดีฟส์ และติมอร์ตะวันออก เป็นเพียงสามชาติ ที่ไม่เคยได้รับแม้แต่เหรียญรางวัลเดียว ตั้งแต่เข้าแข่งขันเป็นต้นมา ซึ่งในตารางต่อไปนี้เป็น 10 อันดับของประเทศที่ได้รับเหรียญรางวัลรวม

พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 1
ที่กรุงนิวเดลีของอินเดีย เมื่อปี พ.ศ. 2494

อันดับ ประเทศ ภาพเหรียญทอง ทอง ภาพเหรียญเงิน เงิน ภาพเหรียญทองแดง ทองแดง รวม
1 จีน 1342 900 653 2895
2 ญี่ปุ่น 957 980 913 2850
3 เกาหลีใต้ 696 606 761 2063
4 อิหร่าน 159 161 175 495
5 คาซัคสถาน 140 141 200 481
6 อินเดีย 139 178 285 602
7 ไทย 121 159 233 513
8 เกาหลีเหนือ 98 132 166 396
9 จีนไทเป 82 125 255 452
10 ฟิลิปปินส์ 64 112 213 389
11 อุซเบกิสถาน 63 96 114 273
12 อินโดนีเซีย 60 95 203 358
13 มาเลเซีย 56 88 132 276
14 ปากีสถาน 44 63 93 200
15 สิงคโปร์ 37 55 101 193
รวม 4313 4295 5136 13744

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

Free Web Hosting