แม้จะโดนดับฝันจากโอลิมปิก 2012 แต่การเดินทางบนถนนสายกีฬาลูกยางของไทยยังไม่สิ้นสุด
โดยเฉพาะในศึก ”เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2012” ที่ฟัดกันอย่างหนักตลอดการแข่งขันสัปดาห์แรก เมื่อวันที่ 8-10 มิ.ย.ที่ผ่านมา
สังเวียนนี้ ทีมลูกยางสาวไทย เคยฝากผลงานสะท้านยุทธภพลูกยางโลกมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา ด้วยการกระชากตั๋วเข้าสู่รอบสุดท้าย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ก่อนจบผลงานด้วยอันดับ 6 ซึ่งเป็นอันดับที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย ตลอด 8 ครั้งก่อนหน้าที่เคยเข้าร่วมการแข่งขัน
ผลงานจากทัวร์นาเมนต์นี้เมื่อปี 2011 กลายเป็นเครื่องการีนตีฝีมือลูกยางสาวไทย ว่าพวกเธอไม่แพ้ชาติใดในโลก
อย่างไรก็ตามถึงจะได้มาซึ่งความสำเร็จจากปีที่แล้ว แต่นั่นไม่สามารถยับยั้งให้พวกเธอหยุดนิ่งอยู่ที่เดิมเพียงแค่ว่า ”เคย” สร้างประวัติศาสตร์มาแล้วเท่านั้น
หากแต่ความสำเร็จที่เกิดขึ้นกลับเป็นแรงจูงใจ เป็นตัวจักรขับเคลื่อนให้ทีมลูกยางสาวไทยมีเป้าหมายที่สูงกว่ามาครั้งนี้ ”เวิลด์ ปรังด์กรีซ์ 2012” จึงเป็นรายการแห่งความฝันของทั้งนักกีฬาและสตาฟฟ์โค้ช
สำหรับเรื่องรูปร่างที่แตกต่างคงไม่ใช่ปัญหาของสาวไทย เพราะต่อให้ไม่ว่าจะเจอทีมไหนตบสาวสยามย่อมเสียเปรียบอย่างปฏิเสธไม่ได้ ฉะนั้นการดึงลักษณะเด่นของตัวผู้เล่นและจุดเด่นของความเป็นทีมออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์สูงสุดจึงเป็นแนวทางเดียวที่ไทยทำได้ ร่วมกับเทคนิค แท็กติก และความเฉลียวฉลาดของผู้เล่นเอง
ความมุ่งหวังที่อยากประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้ทุกคนมีความมุ่งมั่นและทะเยอทะยานด้วยหวังที่จะก้าวไปให้ถึงฝั่งฝัน
ภาพการทำงานแบบ ”ทีมเวิร์ก” ของลูกยางสาวไทยทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ล้วนเข้าขากันได้ดี โดยเฉพาะ ”ปู” มลิกา กันทอง มือสังหารผู้ปิดทองหลังพระ มาคราวนี้เห็นทีจะได้รับการขนานนามจากองเชียร์อย่างไม่หยุด เพราะนอกจากจะเป็นคนหัวใจสู้แล้ว ลีลาการเหินฟ้าขึ้นตบของ ”ปู” ยังทำได้เฉียบคมและดุดัน จนกลายเป็นผู้เล่นที่ทำคะแนนสูงสุดในนัดเปิดสนาม ด้วยการพาทีมเอาชนะ ”นักตบฟ้า-ขาว” อาร์เจนตินา
ด้าน ”อร” อรอุมา สิทธิรักษ์, ”เดอะหน่อง” ปลื้มจิตร์ ถินขาว, ”กัปตันกิ๊ฟ” วิลาวัณย์ อภิญญาพงษ์ ทั้งสามคนยังรักษามาตรฐานได้คงเส้นคงวา ด้าน ”แจ็ค” อัมพร หญ้าผา แม้จะถูกเปลี่ยนตัวบ่อยครั้งแต่บอลไหลหลังของเธอยังเรียกแต้มให้ทีมในช่วงคับขัน ไม่ต่างจากรุ่นน้อง ”บะหมี่” ฐาปไพพรรณ ไชยศรี ทำหน้าที่ได้ดีไม่หยอก ไม่ต่างจากสองลิเบอโร่ ”นา” วันนา บัวแก้ว และ ”แป้น” ปิยะนุช แป้นน้อย ที่ทุ่มกำลังรับสุดตัว
ฟากน้องใหม่ ”พู่” พรรณ เกิดปราชญ์ เซตเตอร์ดาวรุ่งโชว์ไหวพริบตอกย้ำความเฉลียวได้ไม่แพ้รุ่นพี่ ”ซาร่า” นุศรา ต้อมคำ นอกจากคุมตำแหน่งเซตมือหนึ่งแล้วลูกเสิร์ฟของเธอยังตัดเกมรุกคู่ต่อสู้ได้ดี
และหากสัปดาห์ 2 ระหว่างวันที่ 15-17 มิ.ย.55 ที่โคมากิ ประเทศญี่ปุ่น ถ้าสาวไทยสามารถถีบตัวเองขึ้นไปเป็นแชมป์กลุ่ม และเก็บได้ 9 คะแนนเต็ม โอกาสที่จะถือตั๋วเข้ารอบสุดท้ายยิ่งมีมาก แม้จะเหลือการเล่นในบ้านสัปดาห์สุดท้าย และนับเป็นสัปดาห์แห่งความหฤโหด เพราะต้องเจอทั้ง ”เซอร์เบีย” ดีกรีแชมป์ยุโรป ทีมอันดับ 6 ของโลก และ ”เต็งหนึ่ง” สหรัฐอเมริกา ทีมแชมป์เก่า 2 สมัยซ้อน อาจไม่ง่ายที่จะโค่นเอาชนะทั้งคู่ แต่หากเก็บ ”อาร์เจนตินา” ได้สามเซตรวด เชื่อว่าหนทางคงไม่ไกลเกินอื้อม
อย่างไรก็ตามสายโหดไม่ได้มีแค่สัปดาห์ 3 หากแต่การกลับไปเยือนถิ่นนักดาบซามูไรในสัปดาห์ 2 นับเป็นงานใหญ่ เพราะนอกจากจะฟาดฟันกับ ”โดมินิกัน” ทีมอันดับ 9 ของโลก ไทยยังต้องตามขยี้ ”ยุ่น” เพื่อลบแค้นเก่าให้ได้
แม้ตอนนี้อาจยังไม่มีคำตอบว่านักตบไทยจะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ที่หนิงโบ ประเทศจีน ได้แน่นอนหรือไม่…แต่อย่างน้อยการจบผลงานอันดับ 2 กลุ่มเอ (4 ทีม) และอันดับ 6 ของทั้งหมด 16 ทีม ในสัปดาห์แรกทำให้ไทยมีโอกาสลุ้นเข้ารอบได้อีกครั้ง
